เทคนิค 6 ประการ ของการทำ PowerPoint ให้สวยโดนใจผู้อ่าน
1. หลีกเลี่ยงการใช้ Template สำเร็จรูปจากโปรแกรม PowerPoint
เพราะบางครั้งการใช้ Template สำเร็จรูปที่โปรแกรมมีไว้ให้เรานั้น
ก็ไม่สามารถทำให้งานของเรามีความน่าสนใจหรือน่าอ่านเลย
แต่การที่เราได้ออกแบบใหม่เอง จะทำให้เรารู้ว่าส่วนไหนควรวางอะไร
ควรใช้สีอะไรถึงเหมาะสม
แล้วก็ควรใส่ข้อความลงไปเท่าไหร่จึงจะทำให้ผู้อ่านสนใจ
2. Flat Design เรียบง่าย สดใส และชัดเจน
Flat Design คือการออกแบบทุกอย่างให้ดูแบนราบ
ลดการใช้องค์ประกอบทุกอย่างที่มีมิติ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แสงและเงา
การใส่พื้นผิวให้กับวัตถุ การไล่สี และยังรวมไปถึงสิ่งอื่นๆ
ที่จะทำให้วัตถุลอยออกมา เพราะเราต้องเน้นให้บทความให้ดูเด่นกว่าสิ่งอื่นใด
ดังนั้นหน้าตาของ Flat Design จึงเป็นอะไรที่ดูเรียบง่าย สะอาดตา
แต่ก็จะมีจุดเด่นในการสีสันที่สดใส จากเดิมที่เราใช้แค่ 2-3 สี แต่การ Flat
Design จะใช้สีถึง 6-8 สีด้วยกัน
เพราะเมื่อทุกอย่างในงานของเราดูเรียบง่าย เน้นบทความแล้ว
จึงต้องใช้สีต่างๆ เข้ามาช่วยในการทำใไ้คนอ่านจดจำได้ง่ายยิ่งขึ้น
โดยมีขั้นตอนง่ายในการทำดังนี้
- ภาพนิ่งของเราควรจะเรียบง่ายและสื่อความหมายออกมาได้ชัดเจน
- กำจัดข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อความไม่ยุ่งเหยิง อย่าใช้ข้อความตัวอักษรที่เยอะเต็มหน้าสไลด์จนเกินไป ควรมีที่ว่างเอาไว้ด้วย เพราะจะทำให้ผู้อ่านได้ง่ายยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้เอฟเฟคมากจนเกินไป เพราะจุดมุ่งหมายของเราอยู่ที่การสื่อสารให้ผู้อ่านเข้าใจและจดจำง่าย ไม่ได้ทำเพื่อที่จะได้รางวัลออสการ์
- ใช้ภาพเคลื่อนไหวเท่าที่จำเป็น ยกตัวอย่างเช่น ข้อความบินได้หรือข้อความกระพิบสามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้ แต่ควรใช้กับเฉพาะข้อความที่เป็นหัวข้อ (Topic) เท่านั้น
- เสียงเอฟเฟคที่มาพร้อมกับภาพเคลื่อนไหว หลีกเลี่ยงได้จะดีที่สุด
3. Mix and Match ตัวอักษร
ตัวอักษร (Fonts) ถือเป็นจุดดึงดูดใจแรกๆ ในการทำ PowerPoint
การเลือกใช้ตัวอักษรที่ไม่ซ้ำซากจำเจเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับในการทำงานที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเสนอของเราให้ดูดีเป็นที่จดจำมากขึ้น
ด้วยการผสมและจับคู่ตัวอักษร 2-3 แบบในงาน Presentation
(ใช้ตัวอักษรเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ จะทำให้งานเราดูแตกต่างจากคนอื่น)
ซึ่งมีเทคนิคการทำดังนี้
- ใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ที่ง่ายต่อการอ่าน (อย่างน้อย 24 point)
- อย่าใช้ตัวอักษรที่เป็นตัวหนาทั้งหมด ควรใช้เน้นเฉพาะคำสำคัญหรือวันที่
- เลือกตัวอักษรสีเข้มบนพื้นหลังสีสว่าง ยกตัวอย่างเช่น พื้นหลังสีขาวและสีเหลือง ควรเลือกใช้ตัวอักษรสีดำหรือสีน้ำเงินเข้ม ถ้าพื้นสีเข้มก็ควรเลือกใช้ตัวอักษรสีอ่อน แต่สำหรับเทรนด์ของ Flat Design จะนิยมใช้เป็นตัวอักษรสีขาวบนพื้นหลังสีเข้ม หรือพื้นหลังที่เป็นรูปภาพนั่นเอง
- อย่าลืมกฎ “7×7” คือ อย่าให้เกิน 7 คำต่อ 1 บรรทัด และอย่าให้เกิน 7 บรรทัดต่อหนึ่งสไลด์
- หลีกเลี่ยงความจำเจจากการใช้ตัวอักษรแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น Angsana, Cordia และ Times New Roman ลองหาฟอนต์ใหม่ๆ ให้เข้ากับงาน โดยสามารถเลือกดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เปิดให้เราสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เช่น เว็บไซต์ www.f0nt.com และ www.fontsquirrel.com
4. เลือกสีดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
อย่าลืมนะว่า… สีสามารถกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกของคนเราได้
การเลือกสีที่เหมาะสมจะสามารถโน้มน้าวและสร้างแรงจูงใจในการอ่านได้
เพียงแค่จำไว้ว่า สีสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สีโทนเย็น (Cool
colors) เช่น สีฟ้าและสีเขียว และสีโทนอบอุ่น (Warm colors) เช่น
สีส้มและสีแดง โดยสีโทนเย็น จะเหมาะสำหรับทำเป็นพื้นหลัง (Background)
และสีโทนอบอุ่น ไว้สำหรับเป็นสีของข้อความ (Text)
5. ภาพหนึ่งภาพ… แทนคำพูดนับพันคำ
ภาพหนึ่งภาพแทนคำพูดดีๆ ได้นับร้อยนับพันคำ
สามารถดึงดูดใจและสร้างแรงบันดาลใจไปยังผู้ชมให้ได้รับรู้ถึงเป้าหมายและประเด็นที่คุณต้องการนำเสนอ
แต่ก็มีข้อควรระวังในการเลือกใช้ภาพเหมือนกันนะ
เพราะในปัจจุบันมีกฎหมายลิขสิทธิ์เกี่ยวกับภาพถ่ายกล่าวไว้อย่างชัดเจน
แต่ก็ยังมีอีกหลายเว็บไซต์ที่สามารถดาวน์โหลดภาพและภาพถ่ายมาใช้ได้ฟรี
ไม่มีลิขสิทธิ์และค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
6. Infographic
การนำเสนอแบบอินโฟกราฟฟิก
คือการนำเสนอโดยใช้รูปภาพมาช่วยดึงดูดความสนใจของผูอ่าน
โดยต้องพยายามนำเสนออินโฟกราฟฟิกในรูปแบบใหม่ๆ จะช่วยให้น่าสนใจมากกว่า
กราฟแผนภูมิแท่งหรือแบบวงกลมแบบทั่วๆ ไป
Post a Comment